วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

เพลง “นิทานในฤดูใบไม้ผลิ” บทเพลงแห่งประวัติศาสตร์การปฏิวัติการปกครองของจีน



ลักษณะพิเศษที่น่าสนใจของเพลงประเภท เพลงรักชาติของจีนอย่างหนึ่งก็คือ เพลงแต่ละเพลงเป็นเสมือนบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ในแต่ละยุคสมัย เมื่อกาลเวลาผ่านไป เพลงเหล่านี้จะทำหน้าที่เรียงร้อยเรื่องราวให้เราได้เห็นภาพของพัฒนาการของชาติตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน

ภาพจาก http://www.marxists.org/chinese/images/17.jpg

        นับตั้งแต่ประเทศจีนได้ปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1949 มีผู้นำประเทศมาแล้วสามรุ่น แต่ละรุ่นมีเพลงสดุดีประธานาธิบดีเป็นสัญลักษณ์ เพลงสดุดีประธานาธิบดีรุ่นที่หนึ่งชื่อเพลง ตงฟางหง《东方红》Dōnɡfānɡhónɡบูรพาแดงเป็นเพลงสดุดี ประธานาธิบดีเหมาเจ๋อตง(毛泽东Máo Zédōnɡ) แต่งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1943 


 

ภาพจาก

http://pic5.nipic.com/20100114/4138721_103925015238_2.jpg

       เพลงสดุดีประธานาธิบดีรุ่นที่สองชื่อเพลงชุนเทียนเตอะกู้ซื่อ《春天的故事》Chūntiān de ɡùshi นิทานในฤดูใบไม้ผลิ  เป็นเพลงสดุดีประธานาธิบดีเติ้งเสี่ยวผิง (邓小平Dènɡ Xiǎopínɡ) แต่งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1994 เพลงสดุดีประธานาธิบดีรุ่นที่สามชื่อเพลง โจ่วจิ้นซินสือต้าย《走进新时代》เป็นเพลงที่สดุดีผู้นำรุ่นที่สาม คือ ประธานาธิบดีเจียงเจ๋อหมิน (江泽民Jiānɡ Zémín)  แต่งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1997


 เพลงนิทานในฤดูใบไม้ผลิ ประพันธ์คำร้องโดย เจี่ยงคายหรู และ เย่ซวี่เฉียน (蒋开儒、叶旭全Jiǎnɡ Kāirú、Yè Xùquán ) ประพันธ์ทำนองโดย หวางโย่วกุ้ย (王佑贵Wánɡ Yòuɡuìเพลงนี้ได้รับการเผยแพร่เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 1994 ในรายการเพลงดนตรี ของสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งชาติจีน ต่อมาในการประกวดมหกรรมเพลงของสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางครั้งที่สอง  เพลงนี้ได้รับรางวัลเพลงยอดเยี่ยมอันดับหนึ่ง  ทำให้เพลงนี้ได้รับความนิยมและโด่งดังไปทั่วแผ่นดินจีนอย่างรวดเร็ว เวลาต่อมาได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในเพลงประกอบสารคดีของผู้นำจีนคนสำคัญและเป็นผู้ที่นำที่นำประเทศจีนเข้าสู่วิถีทุนนิยม ชื่อ  เติ้งเสี่ยวผิง  ในปี 1995 ได้รับรางวัลเพลงยอดเยี่ยมในวันแรงงานแห่งชาติ  ได้รับรางวัลระฆังทอง ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดในวงการเพลงของจีน นับเป็นเป็นเพลงที่ได้รับรางวัลระดับชาติมากที่สุด และเป็นแบบแผนของเพลงจีนในยุคต่อมา  เป็นตัวแทนของเพลงจีนชั้นแนวหน้าอีกเพลงหนึ่ง เนื้อเพลงบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของจีน  ในฤดูใบไม้ผลิ ปี 1979 ท่านผู้นำเติ้งเสี่ยงผิงวางแผนพัฒนาพื้นที่เมืองเซินเจิน และความพยายามในการเปลี่ยนแปลงประเทศจีนครั้งยิ่งใหญ่ นำมาซึ่งการพัฒนาของเมืองท่าสำคัญคือ เซินเจิ้น กว่างโจว กวางตุ้ง สร้างความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของชาติจีนในปัจจุบัน ทำให้ชาวจีนทุกคนล้วนสำนึกและรำลึกถึงคุณความดีของผู้นำท่านนี้ อย่างไม่มีวันลืมเลือน       
ปูมหลังของเพลงนี้เริ่มมาจาก ในปี ค.ศ. 1992 นักประพันธ์คำร้อง เจี่ยงคายหรู ซึ่งขณะนั้น ทำงานเป็นคนงานในคณะระบำเร่ของเมืองเซินเจิ้น  ได้อ่านงานวรรณกรรมชิ้นหนึ่งชื่อ ปริศนาของ sphinx  แห่งเซินเจิ้น (深圳的斯芬克斯之谜Shēnzhèn de Sīfēnkèsī zhī mí) หนังสือเล่มนี้เป็นบันทึกเรื่องราวของช่วงเวลาของฤดูใบไม้ผลิ ในปี ค.ศ.1979 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์การปฏิวัติที่ เติ้งเสี่ยวผิง ประธานาธิบดีคนที่สองของระบอบคอมมิวนิสต์จีน วางแนวนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองกว่างโจว ที่ว่า ฝ่าเส้นทางสายเลือดสู่เส้นทางชีวิตใหม่” (杀出一条血路来shāchū yìtiáo xuèlù lái) นโยบายนี้เป็นคุณูปการมหาศาลต่อการพัฒนาและความเจริญก้าวหน้าของเมืองกว่างโจว เมื่อ เจี่ยงคายหรู อ่านถึงข้อความนี้เกิดความรู้สึกคล้อยตามคำของเติ้งเสี่ยวผิงเป็นอันมาก เนื่องจากเมื่อตอนวัยหนุ่ม  เจี่ยงคายหรู เคยเป็นทหารมาก่อน จึงเข้าใจคำพูดและจิตวิญญาณของวีรบุรุษสงครามปฏิวัตินี้อย่างลึกซึ้ง  กอรปกับภาพการพัฒนาที่รุดหน้าก้าวไกลของเมืองกว่างตงในทุกวันนี้ เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างชัดเจนถึงการทุ่มเทเพื่อการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อนำพาประชาชนจีนมุ่งสู่ชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น
ความประทับใจที่ผู้ประพันธ์มีต่อความเจริญรุ่งเรืองพัฒนาของเมืองกว่างโจว และคำพูดของท่านประธานาธิบดีเติ้งเสี่ยวผิง สร้างแรงบันดาลใจให้นักประพันธ์ เจี่ยงคายหรู จรดปากกาเอื้อนเอ่ยวาจาพรรณนาออกมาเป็นภาษาเพลง เมื่อขัดเกลาจนเป็นที่พอใจแล้ว ก็ได้ส่งคำประพันธ์นี้ทางจดหมายไปที่สำนักหนังสือพิมพ์แห่งเมืองเซินเจิ้น จนกระทั่งวันที่ 7 เดือนมกราคม ปี ค.ศ. 1993  ยามรักษาการณ์ของหน่วยงานที่ เจี่ยงคายหรู ทำงานอยู่ได้เอาหนังสือพิมพ์ฉบับประจำวันมาตะโกนถามที่หน้าประตูว่า บทความที่ตีพิมพ์ชื่อ ชุนเทียนเตอะกู้ซื่อ (春天的故事Chūntiān de ɡùshi) นิทานในฤดูใบไม้ผลิ  ชื่อผู้แต่งทำไมจึงเหมือนกับชื่อของท่าน  ท่านจึงรีบเอาหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นมาอ่าน จึงได้รู้ว่าผลงานการประพันธ์ที่ส่งไปยังสำนักหนังสือพิมพ์นั้น ได้ตีพิมพ์เผยแพร่แล้ว จากนั้น  เจี่ยงคายหรู ได้นำเนื้อเพลงดังกล่าวไปพบกับคีตกวีที่ตนเชื่อถือชื่อว่า  หวางโย่วกุ้ย เมื่อได้เห็นเนื้อเพลง คีตกวีท่านนี้ก็รู้สึกว่าเป็นคำร้องที่มีฉันทลักษณ์ และเนื้อหาโดดเด่นกว่าเพลงที่เคยได้ยินมา การแต่งทำนองเพลงให้กับเนื้อเพลงที่มีคำร้องใหม่เช่นนี้ เป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถของคีตกวียิ่งนัก จึงได้รับปากแต่งเพลงนี้ให้
    จนกระทั่งเดือน มีนาคม ปี ค.ศ. 1994 ซึ่งตรงกับฤดูใบไม้ผลิ  เป็นเทศกาลการประกวดเพลงสร้างสรรค์ใหม่ของมณฑลกว่างตง มีเพลงใหม่ที่ส่งเข้าประกวดนับร้อยเพลง ซึ่งเพลง นิทานในฤดูใบไม้ผลิ   นี้ก็ได้เข้าสู่รอบคัดเลือกเช่นเดียวกัน  
  แต่ในการพิจารณา คณะกรรมการตัดสินมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน แบ่งเป็นสองฝ่าย  ฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นเสียงส่วนมากเห็นว่า เพลงนี้เป็นเพลงที่เกี่ยวกับการเมืองการปกครอง มีเนื้อหาเกี่ยวกับการปฏิวัติและผู้บริหารประเทศ  คำที่ใช้ในเพลง เช่น วาดวงหนึ่งวง (画了一个圈huàle yí ɡe quān) และคำว่า ผู้เฒ่าท่านหนึ่ง (一位老人yíwèi lǎorén)  เป็นคำพูดที่ไม่เหมาะสม ขาดความน่าเกรงขาม ไม่อาจเลือกให้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้   ในขณะที่มีคณะกรรมการอีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่า เพลงที่จะเป็นสื่อแทนใจ และเป็นเสมือนตัวแทนคำพูดของประชาชน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้คำพูดที่ตรงไปตรงมาเช่นนี้ คำร้องของเพลงนี้เสมือนหนึ่งคำพูดที่สะท้อนความรู้สึกอันบริสุทธิ์แท้จริงที่กลั่นออกมาจากใจของประชาชน และแสดงออกถึงความเคารพรักของประชาชนที่มีต่อท่านประธานาธิบดี เติ้งเสี่ยวผิง 
เป็นที่แน่นอนว่าการตัดสินของคณะกรรมการต้องถือเสียงส่วนใหญ่เป็นมติ ชะตากรรมของเพลง นิทานในฤดูใบไม้ผลิ คงถูกฝังลงดินสิ้นชื่อ มิได้จรัสแสง เปล่งเสียงขับกล่อมชโลมใจผู้คนเหมือนอย่างปัจจุบันเป็นแน่ แต่ในที่สุดคณะกรรมการฝ่ายที่สนับสนุนก็ได้โน้มน้าวด้วยเหตุผลจนชนะใจคณะกรรมการส่วนใหญ่จนมีความเห็นพ้องต้องกัน ในที่สุดเพชรเม็ดงามไม่ว่าจะตกโคลนตมอย่างไรก็ยังคงทรงคุณค่าและไม่มีวันอับแสง การประกาศผลรางวัลเพลงสร้างสรรค์ใหม่ของมณฑลกว่างตงประจำปี ค.ศ. 1994 เพลง นิทานในฤดูใบไม้ผลิ  ยืนอยู่แถวหน้า ขึ้นแท่นรางวัลชนะเลิศอย่างสง่าผ่าเผยและภาคภูมิ ส่งเสียงเล่าเรื่องของ ผู้เฒ่าท่านหนึ่งที่ วาดวงสร้างความเจริญให้บ้านเมือง พร้อมๆกับการพัฒนาของประเทศจีนทุกก้าวย่างเรื่อยมาตราบจนปัจจุบัน

เนื้อเพลง
一九七九年那是一个春天  有一位老人在中国的南海边画了一个圈
神话般地崛起座座城      奇迹般聚起座座金山
春雷啊唤醒了长天内外    春辉啊暖透了大江两岸
,中国,中国            你迈开了气壮山河的新步伐
走进万象更新的春天     
一九九二年又是一个春天 有一位老人在中国的南海边写下诗篇
天地间荡起滚滚春潮      征途上扬起浩浩风帆
春风啊吹绿了东方神州    春雨啊滋润了华夏故园
,中国,中国            你展开了一幅百年的新画卷
捧出万紫千红的春天

ความหมายของเนื้อเพลง
หนึ่ง เก้า เจ็ด เก้า นั้น คือฤดูใบไม้ผลิ                     มีผู้เฒ่าดำริวาดวงที่จีนฝั่งทะเลใต้
สร้างเมืองแล้วเมืองเล่าราวเทพนิยาย                     ดั่งปาฏิหาริย์เรียงรายภูเขาทองไว้ด้วยกัน
เสียงฟ้าร้องปลุกฟื้นทั้งดินฟ้า                                แสงส่องหล้า อุ่นสองฝั่ง ร่วมสุขสันต์        
โอ้ชาติจีน ชาติจีน ก้าวฝ่าฟัน                                ก้าวใหม่ข้ามเขาลำธารบุกบั่นไป               
ก้าวเข้าสู่ฤดูใหม่ ยิ่งวัฒนา

หนึ่ง เก้า เจ็ด เก้า ใบไม้ผลิเวียนมาใหม่                  ที่แดนใต้ เขียนตำนาน ผู้เฒ่ากล้า
สั่นสะเทือน เลื่อนลั่น ทั้งดินฟ้า                             ทัพโยธามหาศาลเรือกางใบ

ลมอุ่นเอ๋ย โชยแดนดินถิ่นบูรพา                             วสันต์โปรยปรายมาแผ่นดินใหญ่
โอ้ ชาติจีน  ชาติจีน มุ่งหน้าไป                               กอบกู้ สีสันใหม่ แห่งพฤกษาฤดู



1.  โน้ตเพลง

2. อักษรจีนนี้ หมายถึง นิทานฤดูใบไม้ผลิ เป็นชื่อเพลง












2.      ภาพขนาดมหึมาตั้งตระหง่านที่จัตุรัสเมืองเซินเจิ้น เพื่อสดุดีและรำลึกถึงคุณูปการของประธานาธิบดีเติ้งเสี่ยวผิงที่สร้างความเจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งให้กับเมืองเซินเจิ้นและประเทศจีน  http://images.tuniucdn.com/images/2010-12-21/6/62ma8sh531QFth64.jpg







3.      เมืองเซินเจิ้นก่อนการกฏิวัติการปกครอง








  1. เมืองเซินเจิ้นในปัจจุบัน http://upload.17u.com/uploadfile/2008/08/21/3/2008082109061360349.jpg



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น