ชาวเปียวไม่มีชื่อเรียกตนเอง
แม้จะถูกจัดไว้เป็นชนชาวฮั่น แต่ก็ยังรู้สึกได้ว่าตนเองไม่ใช่ชาวฮั่นที่แท้จริง
ชาวเปียวเรียกภาษาที่ตนเองพูดว่า /ka:N1 peu5 หรือ ka:N1 pa:u1/ คำว่า / ka:N1/ ตรงกับภาษาจีนคำว่า 讲jiǎng [1] แปลว่า “พูด” คำว่า / peu5 หรือ pa:u1/
เป็นชื่อเฉพาะที่เจ้าของภาษาใช้เรียกภาษานี้
คำเรียกชื่อภาษาเปียวจึงมีความหมายว่า “พูดเปียว” และเนื่องจากไม่มีชื่อเรียกตนเอง นักวิชาการจีนจึงเรียกชนกลุ่มนี้ว่า
讲标人Jiǎng Biāo rén แปลว่า “คนพูดเปียว” ในอดีตเมื่อยุคปี
80 มีนักวิชาการบางส่วน (Liáng
Mǐn, Zhāng Jūnrú, 2001, 34) ใช้อักษรจีนจดชื่อภาษานี้ว่า 豹语Bào yǔ แต่เนื่องจากอักษร
豹
แปลว่า “เสือดาว” เห็นว่าไม่เหมาะสม ต่อมาจึงเปลี่ยนมาใช้อักษร 标语Biāoyǔ อักษรที่เลือกมาใช้ใหม่นี้พ้องกันกับคำนามในภาษาจีนคำว่า标语Biāoyǔ
แปลว่า “คำขวัญ” ดังนั้นเพื่อป้องกันการสับสนจึงเปลี่ยนมาใช้คำว่า
标话Biāo huà จากนั้นมานักวิชาการจีนก็เป็นอันเข้าใจร่วมกันว่าคำนี้เป็นชื่อเรียกภาษาเปียว
จากแผนภูมิการจัดตระกูลภาษา (แผนภูมิ KP 1) จะเห็นว่าภาษาเปียวอยู่คนละแขนงกับภาษาไทย
หากจะเทียบภาษาเปียวกับภาษาไทยแล้วก็เทียบได้ว่าเป็นภาษาลูกพี่ลูกน้องกัน และเมื่อนับขึ้นไปตามสายเครือญาติ
ก็จะเห็นว่าเป็นระดับหลานของภาษาจีน แม้ว่าภาษาเปียวจะจัดอยู่ในคนละแขนงกับภาษาไทย
แต่ภาษาเปียวมีความสำคัญต่อภาษาไทยในการใช้เป็นภาษาต้นแบบสำหรับสืบสร้างเสียงพยัญชนะควบกล้ำของภาษาไทย
ผู้เขียนได้ตรวจสอบรายการคำศัพท์ภาษาเปียวแล้วพบลักษณะที่น่าสังเกตเกี่ยวกับความสัมพันธ์ดังกล่าวที่ชัดเจนมาก
กล่าวคือ พยัญชนะควบกล้ำในภาษาไทย เช่น /กล-,คล-/ ภาษาเปียวเป็นเสียง /l-/ เมื่อเทียบกับคำในภาษาจีนก็จะตรงกับคำที่ออกเสียงด้วยพยัญชนะต้น
/l- / หรือ /j-/ หรือ /k-/ เป็นบางคำ (แม้จะหาคู่คำที่ตรงกับภาษาจีนได้ไม่ครบทุกคำ
แต่ส่วนใหญ่สอดคล้องตามเกณฑ์ที่กำหนด) เสียงพยัญชนะต้น /l- /
ในภาษาจีนเหล่านี้ เมื่อเทียบกับภาษาจีนโบราณจะตรงกับเสียงควบกล้ำ /gr-,
kr-, br-/ จึงสันนิษฐานได้ว่าคำศัพท์ร่วมเชื้อสายที่ภาษาจีนโบราณออกเสียงเป็นเสียงควบกล้ำ
C1+C2[1] นั้น
ภาษาไทยยังคงรักษาเสียงควบกล้ำทั้งสองเสียงไว้ได้
แต่ภาษาเปียวและภาษาจีนปัจจุบันสูญเสียเสียงพยัญชนะต้น C1
ไปแล้ว คงเหลือเพียงเสียงควบกล้ำ C2 /l-/ ทำหน้าที่เป็นพยัญชนะต้น (บางคำสูญเสียงเสียงในตำแหน่งควบกล้ำเหลือเพียงตำแหน่งพยัญชนะนำ)
นอกจากนี้ยังพบลักษณะของคำที่ควบกล้ำกับอรรธสระ
ก็เกิดปรากฏการณ์เช่นเดียวกัน แต่ตัวอย่างคำมีไม่มาก ดังตัวอย่างคำต่อไปนี้
(สัญลักษณ์ C หมายถึง พยัญชนะต้นเดี่ยว Cl หมายถึงพยัญชนะควบกล้ำกับ –l และ Cr หมายถึงพยัญชนะควบกล้ำกับ -r)
เปียว
|
ไทย
|
จีนปัจจุบัน
|
|
C2
|
C1+C2
|
C2
|
C1+C2/C2
|
l
|
Cl,
Cr
|
l-
|
C,
Cl, Cr
|
li1
|
ไกล
|
离lí
|
b.rel
|
liaN4
|
กริ่ง
|
铃líng
|
g.reeN
|
luN4
|
กระด้ง
|
笼lóng
|
luN
|
liaN5
|
เกลี้ยง
|
亮liàng
|
g.raNs
|
luN2
|
กล่อง ลัง
|
笼lóng
|
lung
|
luN4
|
มะโรง
|
龙lóng
|
b.roN
|
luN4
|
กรง
|
笼lóng
|
b.rooN
|
lan6
|
เปลือย
|
裸luǒ
|
lua
(ม.)
|
laN2
|
ตะแกรง
|
篓lǒu
|
lo
(ม.)
|
lau3
|
กรวย
|
漏lòu
(漏子lòuzi)
|
lo
(ม.)
|
la:m4
|
คราม
|
蓝lán
泔gān
|
g.raam
|
lan4
|
กัน กั้น
|
拦lán
|
g.raan
|
lEn3
|
คร้าน
|
懒lǎn
|
b.raan
|
lN6
|
คลื่น
|
浪làng
|
g.raan
|
C
(l, kh, h)
|
Cl,
Cr
|
C (zh, g, k)
|
C,
Cl, Cr
|
lo6
|
(เช้า) ตรู่
|
昼 zhòu
|
tǐo
(ม.)
|
lin5
|
กลิ้ง
|
滚gǔn
|
ku«n
|
khOm5
|
ครอบ,คลุม
|
盖gài
|
klaab
|
hoi1
|
คลาย
|
开kāi
|
khlµµl
|
huN5
|
กลวง
|
空kōng
|
khlooN
|
hɔk5
|
เปลือก
|
皮pí
|
bǐa (ม.)
|
C
(w, l, h)
|
Cl,
Cr
|
C (n, h, x)
|
Cw
|
wa2
|
ควาย
|
牛niú
|
gwal
|
lN2
|
แกว่ง
|
晃huǎng
|
gwaaN
|
h∅n6
|
แคว้น
|
县xiàn
|
Gweens
|
C
( l, g, j)
|
Cl,
Cr, khj
|
C (y,q)
|
C,
Cl, Cr
|
lieN4
|
กลาง
|
央yāng
|
qaN
|
lan3
|
กลืน
|
咽yàn
|
khlµµn
|
jam3
|
ครึ้ม
|
阴yīn
|
qrµm
|
juk7
|
ปลูก
|
育yù
|
p.lug
|
ken4
|
ขยัน
|
勤qín
|
gi«n
|
la:n2
|
คลาน
|
ไม่สอดคล้องกับภาษาจีน (爬pá)
|
|
lai1
|
ไถล
|
ไม่สอดคล้องกับภาษาจีน (滑huá)
|
|
lo6
|
คลื่น(ไส้)
|
ไม่สอดคล้องกับภาษาจีน (恶心ě xīn)
|
|
นอกจากลักษณะของเสียงควบกล้ำข้างต้นแล้ว
ผู้เขียนยังพบลักษณะความสัมพันธ์ของภาษาเปียวกับภาษาไทยที่คล้ายคลึงกับความสัมพันธ์ของภาษาไทยถิ่นอีสานกับภาษาไทยกลาง
คือ การปฏิภาคกันของเสียง /h - r/ คำที่ภาษาไทยออกเสียงเป็น /r/
จะตรงกับภาษาไทยถิ่นอีสาน /h/ พยัญชนะต้น /h/ ในภาษาไทยถิ่นอีสานนี้ตรงกับเสียงพยัญชนะต้น /h/
ในภาษาจีนปัจจุบัน
ทำให้สามารถสืบสร้างไปถึงเสียงภาษาจีนโบราณได้เป็น /hr-/ โดยที่เสียง /h/
หลงเหลืออยู่ในภาษาจีนและภาษาไทยถิ่นอีสาน ส่วนเสียง /r/
อยู่ในภาษาไทย[3] ตัวอย่างคำที่พบในภาษาเปียวมีดังนี้
เปียว
|
ไทย
|
จีนปัจจุบัน
|
จีนโบราณ (ม.)
|
h
|
r
|
h
|
ก่อนประวัติศาสตร์ / กลางประวัติศาสตร์
Ä,x,k
|
hoi6
|
ร้าย
|
害hài
|
Äāt, Äai
|
hik7
|
ร้อง
|
喊hǎn
|
xam, xAm
|
hN5
|
รม (รมควัน อบ ย่าง)
|
烘hōng
|
xoN, xuN
|
hn2
|
ร้อน
|
旱hàn
|
xan, xAn
|
h2
|
รัก
|
好hǎo
|
x«u,xAu
|
ham4
|
ร่วม
|
含hán
|
Ä«m ,ÄAm
|
ha:p10
|
รวบ (รวบรวม)
|
合hé
|
Ä«p ,ÄAp
|
hap7
|
รวม หุบ(อีสาน “โฮม”)
|
合hé
|
Ä«p ,ÄAp
|
hk5
|
เปลือก
|
壳ké
|
k’ěok,k’k
|
huN2
|
ร่าง (ร่างกาย)
|
骸hái
|
Äi ,Äe«
|
คำถัดไปนี้ไม่ตรงกับภาษาจีน
แต่ตรงกับหลักเกณฑ์เสียงปฏิภาคภาษาเปียวกับภาษาไทย
|
|||
h
|
r
|
x,q
|
Ä,x
|
ha6
|
ร้อน (ฤดูร้อน)
|
夏xià
|
Äea ,Äa
|
hk6
|
เรียน (ศึกษา)
|
学xué
|
Äeěuk, Ä«k
|
h2
|
รี่ (เข้า)
|
向xiàng
|
xǐAN, xiaN
|
h6
|
แตร
|
喇叭lǎbā
|
-
|
ในภาษาไทยถิ่นเหนือ
เสียงพยัญชนะต้นที่สันนิษฐานว่ามีรากฐานมาจากเสียงดั้งเดิม /hr/
ก็มีลักษณะเหมือนกับภาษาไทยถิ่นอีสาน คือ / ไทยถิ่นเหนือ C1 = h/ /ไทย C2= r/ ดังตัวอย่างคำในตารางข้างต้น
นอกจากนี้ยังพบคำศัพท์ควบกล้ำในภาษาไทยถิ่นเหนือบางคำที่ C1 หายไป
เหลือเป็นพยัญชนะ C2 เหมือนภาษาเปียว เช่น
C1 + C2
|
C2
|
หมายเหตุ
|
กลืน
|
ลืน
|
คำนี้ภาษาไทยถิ่นอีสานก็พูดว่า “ลืน”
|
กล้ำ
|
ล้ำ
|
|
ฉลาด
|
ล๊วก
|
|
ขลาด
|
แล่ด
|
|
คลอก
|
ลวก
|
|
(จีน) 快kuài =
|
โว็ย
(ไทย=ไว)
|
แต่ตัวอย่างคำยังมีไม่มากพอที่จะสรุปเป็นหลักเกณฑ์ได้
เพราะส่วนใหญ่แล้วคำศัพท์ควบกล้ำใน
ภาษาไทยถิ่นเหนือ ส่วนที่หายไปจะเป็น C2 เหลือเพียง C1
เช่น คลอง-คอง กลบ-กบ
กลิ้ง – กิ้ง
กลาง – ก๋าง
ปลา – ป๋า คร้าม-ขาม เป็นต้น
จากข้อมูลคำศัพท์ข้างต้นเราจะพบความสัมพันธ์ของคำศัพท์ภาษาจีน
ภาษาไทย และภาษาเปียวและร่องรอยการแปรของเสียงพยัญชนะต้นที่ค่อนข้างชัดเจน
สามารถสรุปการสืบสร้างเสียงพยัญชนะต้นตระกูลได้ดังนี้
ข้อสันนิษฐานเสียงพยัญชนะดั้งเดิม
|
จีนโบราณ
|
ไทย
|
อีสาน
|
เหนือ
|
เปียว
|
จีนปัจจุบัน
|
C1+C2
|
C,
C1+C2
|
C,C1,C2
|
C1
|
C1, C2
|
C2
|
C2
|
Cl,
Cr
|
C,
Cl, Cr
|
Cl,
Cr
|
h
|
h
|
l
|
l
|
hr-
kr
|
Ä,x,k
|
r
,kr
|
l
|
k
|
h
|
h,
x
|
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ http://www.la.ubu.ac.th/2010/project/tathai2_1.pdf
[1] C1 หมายถึงพยัญชนะต้นตำแหน่งที่ 1
ส่วน C2 หมายถึงพยัญชนะควบกล้ำ
[2] เสียงภาษาจีนโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์ สืบค้นจาก
“รายการคำศัพท์ร่วมเชื้อสายภาษาจีน-ไทย” (Gōng Qúnhǔ,
2002, 281-358) คำที่มีสัญลักษณ์
(ม.) เป็นคำที่ไม่พบในรายการคำศัพท์ข้างต้น จึงสืบค้นจาก
“คู่มืออักษรจีนเสียงโบราณ” (เมชฌ สอดส่องกฤษ, 2560)
[3] โปรดอ่านประเด็นนี้ในผลงานของผู้เขียนสามเรื่อง คือ เมชฌ สอดส่องกฤษ. (2552) “เสียงปฏิภาค /r/,/k/,/kh/ และเสียงปฏิภาคอื่นๆ:หลักฐานความสัมพันธ์ของภาษาจีนกับภาษาไทยในฐานะภาษาตระกูล”
วารสารมนุษยศาสตร์ปริทรรศน์. คณะมนุษยศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 31(2) 5-28 . เมชฌ สอดส่องกฤษ. (2553) “การศึกษาวิเคราะห์ทางภาษาศาสตร์เชิงประวัติศาสตร์ของภาษาตระกูลไท-จีนเรื่อง
ความสัมพันธ์ของเสียง / h /
ในภาษาไทยถิ่นอีสานกับเสียง / h /ในภาษาจีน ” วารสารศิลปศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์
มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่, 2(2), 68-90. เมชฌ
สอดส่องกฤษ. (2554) การศึกษาทางภาษาศาสตร์เชิงประวัติศาสตร์เรื่อง
“คำศัพท์ร่วมเชื้อสายไท-จีน ในภาษาไทยถิ่นอีสาน” The Journal. Journal of
the Faculty of Liberal Arts, Mahidol University. 7(2), 125-149.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น